“ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ” พลิกนิยาม “ไฮเอนด์ คอนโดมิเนียม”
อวดโฉมคอนโดแบรนด์ “เมทริส” 3 ทำเล ตอบโจทย์ Gen Y
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ นำประสบการณ์ตลาดลักชัวรีกว่า 20 ปี รุกตลาดคอนโดระดับ “High-End” ครั้งแรกผ่านแบรนด์ “เมทริส” 3 ทำเล พระราม 9-รามคำแหง, ลาดพร้าว และพัฒนาการ-เอกมัย มูลค่าโครงการรวม 4,630 ล้านบาท พลิกนิยาม “ไฮเอนด์ คอนโดมิเนียม” ตอกย้ำ Timeless Design ด้วยการออกแบบในสไตล์ “Mid-Century Modern” เรียบหรูเหนือกาลเวลา ชูกลยุทธ์ Time To Remaster ขยายเซ็กเมนท์บุกตลาด Gen Y จัดโปร “เลือกทั้งที….ต้องดีที่สุด” เสนอความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทำเล Expanding CBD พร้อมฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน และเฟอร์นิเจอร์ IKEA เริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีมาอย่างต่อเนื่อง โดยทุกโครงการ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ล่าสุด บริษัทได้นำประสบการณ์ในการออกแบบ และควบคุมคุณภาพที่สั่งสมมาอย่างยาวนานในระดับลักชัวรี มาถ่ายทอดสู่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับ High-End ราคาเฉลี่ย 100,000-150,000 บาทต่อ ตร.ม. เป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ แบรนด์เมทริส (Metris) ซึ่งมีที่มาจากคำว่า Retro และ Modernist เพื่อมาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Millennial เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2017 เริ่มต้นจาก 3 โครงการแรกใน 3 ทำเล มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,630 ล้านบาท ได้แก่ 1.เมทริส พระราม 9-รามคำแหง (Metris Rama 9-Ramkumhang) มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท 2.เมทริส ลาดพร้าว (Metris Ladprao) มูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท และ 3.เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย (Metris Pattanakarn-Ekkamai) มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท
“วันนี้โครงการของเราสร้างเสร็จและพร้อมอวดโฉมให้เข้าชมแล้วถึง 2 โครงการ เราจึงมองว่านี่เป็น เวลาแห่งการปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ หรือ Time To Remaster อย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ 1.Remaster The MJD เรายังคงความเป็นผู้พัฒนาโครงการระดับลักชัวรี แต่พร้อมจะขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เป็นกลุ่ม Middle-Upper Management อายุ 35 ปีขึ้นไป เข้าสู่การเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อายุ 25-35 ปี ที่อาจจะมีไลฟ์สไตล์และความสนใจที่แตกต่างกันออกไป ที่ยังคงไว้ด้วยความต้องการในเรื่องของคุณภาพและดีไซน์เพื่อสะท้อนแนวคิดหลักขององค์กร “Crafting Lifescape to Excellence” ที่เป็น DNA ของทุกโครงการภายใต้แบรนด์เมเจอร์ 2.Remaster The Modern DNA ตอกย้ำคอนเซ็ปต์หลักของแบรนด์ที่มุ่งมั่นจะพลิกนิยามใหม่ของความทันสมัยทุกตารางนิ้ว ทั้งด้านงานสถาปัตยกรรม งานภูมิทัศน์ ไปจนถึงงานตกแต่งภายใน ที่แฝงกลิ่นอายของโครงการระดับลักชัวรี ซ่อนไว้ในแบรนด์ใหม่ที่ระดับราคาย่อมเยาลงมานี้เช่นกัน” นางสาวเพชรลดา กล่าว
ทั้งนี้ เมทริส ทั้ง 3 โครงการ จะผ่านการ Remaster The Modern DNA ใน 4 ด้าน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ได้แก่ 1.Remaster with style ตกแต่งสไตล์ Mid-Century Modern ให้หวนระลึกถึงคุณค่าแห่งอดีต ผสานความลงตัวแบบไม่จำกัดยุคสมัย ด้วยรูปทรงเรขาคณิต วัสดุไม้สีเข้ม พื้นผิวสีปูนเปลือย เสาหินสีดำเงา การตกแต่งด้วยเส้นและแพทเทิร์นที่ดูเรียบง่าย สะอาดตา คลาสสิก สร้างความงดงามที่อยู่เหนือกาลเวลา 2.Remaster with identity โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ในงานดีไซน์ที่แตกต่างกันในแต่ละโครงการ สะท้อนถึงความพิเศษ และตอบโจทย์ “การเลือกทั้งทีต้องดีที่สุด” และเป็นที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-friendly residences) มีพื้นที่ส่วนกลางเฉพาะของสัตว์เลี้ยง (Pet Zone) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครือเมเจอร์ 3.Remaster with Expanding CBD เกาะทำเล Expanding CBD ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้ถึง 2 สาย ยึดแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ และแหล่งธุรกิจใหม่ในอนาคต 4.Remaster with new exclusivity สร้างความพิเศษและประทับใจด้วยศิลปะที่โดดเด่นในแบบ Mid-Century Modern ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เมทริส
ด้านนางสาวผดาพร มูลศาสตร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับโครงการเมทริส พระราม9 - รามคำแหง และเมทริส ลาดพร้าว ทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงานตั้งแต่ไตรมาส 1/2563 และไตรมาส 3/2563 ปัจจุบัน เป็นโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ตกแต่งแบบ Fully-Fitted ที่มียอดขายเฉลี่ยแล้วกว่า 70% ขณะที่โครงการเมทริส พัฒนาการ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า โดยบริษัทจะเดินหน้าทำการตลาดแบรนด์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ด้วยแคมเปญ “เลือกทั้งที…ต้องดีที่สุด” นำทั้ง 3 โครงการมานำเสนอในมุมที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น เมทริส พระราม 9 - รามคำแหง ที่เดินทางสะดวกที่สุดในย่านรามคำแหง เพราะเข้าออกโครงการได้ถึง 2 ทาง (ทั้งทางด้านถนนรามคำแหง และทางด้านถนนพระราม 9) สะดวกสบายในการเดินทางมากที่สุด เมทริส ลาดพร้าว โดดเด่น ด้วยดีไซน์ พร้อมจุดเด่นคือความเป็นส่วนตัว เพราะมีเพียง 193 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือว่ายูนิตน้อยสำหรับโครงการในเซ็กต์เมนต์นี้ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบความเป็นส่วนตัวและอยากอยู่ในทำเลใจกลางลาดพร้าว
“ด้วยคุณภาพการก่อสร้างมาตรฐานเมเจอร์ และงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบ Mid-Century Modern ประกอบกับจุดเด่นที่ชัดเจนกว่าใครในย่าน คาดว่าเมทริส จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในแบรนด์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนยอดขายและรายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง” นางสาวผดาพร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้บริโภคที่ซื้อโครงการเมทริส ภายในเดือนกันยายนนี้ จะได้รับสิทธิ์ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน พร้อมสิทธิ์ในการรับเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA ในราคาพิเศษ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทั้งโครงการคุณภาพดี โปรโมชั่นเด่น ทำเลฮิต ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.major.co.th หรือสอบถามโทร. 02-116-1111
โครงการเมทริส พระราม 9 - รามคำแหง (Metris Rama 9-Ramkumhang) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-0-25 ไร่ บริเวณจุดตัดหัวมุมถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง ห่างจาก MRT สายสีส้มเพียง 300 เมตร และแอร์พอร์ตลิงค์สถานีรามคำแหง 600 เมตร เดอะมอลล์ รามคำแหง เพียง 5 นาที เป็นอาคารสูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 570 ยูนิต ประกอบด้วยห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาด 30-59 ตร.ม. พื้นที่ส่วนกลาง อาทิ ล็อบบี้และ Co-working space แบบ Double Volume 7 เมตร ห้องประชุม ฟิตเนสครบวงจรขนาดใหญ่ที่มีโซนสำหรับกีฬา Boxing สระว่ายน้ำระบบเกลือ Rooftop Pet Zone ฯลฯ ราคาเริ่มต้นภายใต้แคมเปญอยู่ที่ 3.1 ล้านบาท Yield อยู่ที่ 4.5-5%
โครงการเมทริส ลาดพร้าว (Metris Ladprao) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-0-78.1 ไร่ บนถนนลาดพร้าว ห่างจาก MRT พหลโยธิน เพียง 250 เมตร เซ็นทรัลลาดพร้าวและยูเนี่ยนมอลล์ เพียง 5 นาที เป็นอาคารสูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 193 ยูนิต ประกอบด้วยห้องพักแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาด 30-66 ตร.ม. พื้นที่ส่วนกลาง อาทิ ฟิตเนสครบวงจร, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ลานบาร์บีคิว, Pet Zone, ห้องสมุด, Rooftop Garden ราคาเริ่มต้นภายใต้แคมเปญที่ 3.88 ล้านบาท Yield อยู่ที่ 4.2%
โครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย (Metris Pattanakarn-Ekkamai) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-1-65 ไร่ บนถนนพัฒนาการ ห่างจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เพียง 100 เมตร เดินทางสู่เอกมัยและแอร์พอร์ตลิงค์ รามคำแหง เพียง 5 นาที โครงการเป็นอาคารสูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 341 ยูนิต ประกอบด้วยห้องพักแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาด 29-61 ตร.ม. พื้นที่ส่วนกลาง อาทิ สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ลานบาร์บีคิว, Pet Zone, Rooftop Garden ราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/2564
สำหรับบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี มีธุรกิจหลักในเครืออยู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย 2.กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และ 3.กลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ มีวิสัยทัศน์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโครงการระดับลักชัวรีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
ติดตามอัพเดตข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เพิ่มเติม ได้ที่
Facebook: Major Development PCL
Instagram: Major_Development_pcl